ฉันมีชื่อเล่นว่า
ปุยฝ้าย
ในส่วนของชื่อเล่นของฉันก็อยากจะเล่าให้ฟังอีกว่า ตั้งแต่ฉันจำความได้
มีคนที่เรียกฉันว่า ปุยฝ้าย ก็คือ
คุณพ่อคุณแม่ คนในครอบครัว เพื่อนสมัยอนุบาล เพื่อนสมัยประถม และก็เพื่อนในมหาวิทยาลัย คงเริ่มสงสัยแล้วสินะว่า มีช่วงหนึ่งที่ขาดไป นั้นก็คือ
เพื่อนสมัยมัธยมต้น และเพื่อนสมัยมัธยมปลายเพราะมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่ชื่อปุยฝ้ายนี้ เป็นชื่อที่ “โหล”มาก นั่นหมายถึง มีคนที่ชื่อปุยฝ้ายมากกว่า
1 คนนั้นเอง 555 ย้อนไปสมัยมัธยมต้น
ฉันเข้าเรียนที่โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี อยู่ห้อง ม. 1/5 ซึ่งในห้องนี้มีคนชื่อ ปุยฝ้าย อยู่ถึง 3 คนด้วยกัน ( T..T) คิดว่าน่าเศร้ามั้ยละ
ที่เวลามีคนเรียก ปุยฝ้าย แล้วต้องหันมาถึง 3 คน ดังนั้น คำว่า ฉายา
จึงได้ริเริ่มเกิดขึ้น ที่นี้ละคะ สนุกปากกันเลยทีเดียว
ฉายาของฉันได้เกิดขึ้นมากมาย แต่ฉันขอไม่พูดถึงละกัน (อายคะ >,,<) โดยฉายาที่เป็นอันว่าเรียกฉันติดปากมาตั้งแต่ ม. 1 จนถึง ม.3 ก็คือฉายาว่า “ลูกหมอ” ที่มาของชื่อนี้ ก็ตรงตัวคะ
พ่อของฉันเป็นหมอ ฉันเป็นลูกคุณหมอ ก็เลยถูกเรียกว่า ลูกหมอ
โดยอาจารย์ที่ปรึกษาของฉันตอนม.1 เป็นผู้ริเริ่มเรียกนั้นเอง ดังนั้นชื่อ
ปุยฝ้าย ของฉันจึงถูกระงับใช้ไปชั่วคราว Y_Y เป็นเวลา 3 ปี พอขึ้นชั้น ม.4 ฉันก็ได้สอบเค้าห้องเรียนสายวิทยาศาตร์- คณิตศาสตร์ ได้อยู่ห้อง 6/13 ซึ่งเป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์พิเศษของโรงเรียน ในห้องนี้มีสมาชิกในห้อง
39 คน ซึ่งก็มีคนชื่อ ปุยฝ้าย อยู่ด้วยกัน 2 คนด้วยกัน (อีกแล้วววว ) เวลาเอ่ยนามกัน ก็ 2 คนอีกนั้นแหละที่หันพร้อมกัน
ดังนั้น ฉายา มันจึงได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นอีกครั้ง ฉายาที่ลงตัวที่ใช้เอ่ยนามของฉัน
ก็คือ “วิชชี่” ซึ่งที่มาของชื่อนี้ มาจากเพื่อนๆที่ร่วมกันตั้ง
เพราะอยากไฮโซ มีชื่อแบบอินเตอร์
เลยนำชื่อจริงของแต่ละคนมาตัดและแต่งเติมด้วยเสียง “อี่” เช่น ฉันชื่อ วิชชุญา ก็กลายเป็น
วิชชี่ นั้นเองคะ ชื่อนี้ของฉันก็ติดอันดับยอดนิยมเรียกกันทั้งห้อง
รวมไปถึงอาจารย์ที่สอนในโรงเรียนด้วย และก็อีกเช่นเคย ชื่อ ปุยฝ้าย จึงได้ถูกระงับใช้ไปอีก
3 ปีจนฉันจบชั้น ม.
6 นี่ถ้าที่บ้านฉันไม่เรียกฉันว่า ปุยฝ้าย ฉันคงลืมไปเลยว่าละตัวเองมีชื่อเล่นว่าอะไร
555 และเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้เค้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เอกคณิตศาสตร์(กศ.บ.) ครูคณิตศาสตร์นั้นเอง ตอนที่แนะนำตัวเพื่อนๆในเอก
ฉันอยากจะบอกว่า ฉันแอบลุ้น(แบบสุดๆ)ว่า ชื่อของฉันจะถูกระงับใช้อีกมั้ย 555 และเหมือนสวรรค์เห็นใจ
ไม่ส่งใครที่ชื่อ ปุยฝ้าย มาเป็นเพื่อนในเอกเดียวกันคะ ดังนั้นชื่อ ปุยฝ้าย
จึงได้กลับมาเปิดตัวและใช้งานตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ นั้นเอง ^^
มาเล่าถึงความคุ้นเคย ของปุยฝ้าย
ฉันเกิดในช่วงสายของวันพุธที่ 16 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2534
คุณพ่อทำอาชีพรับราชการ เป็นคุณหมอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
คุณแม่ทำอาชีพรับราชการ เป็นคุณพยาบาล ฉันเกิดและโตมาในจังหวัดจันทบุรี
มีพี่น้อง 3 คน ฉันเป็นลูกสาวคนโต ตามด้วยน้องสาวและน้องชาย
อุปนิสัย เป็นคนร่าเริง คุยเก่ง ชอบเม้าท์ จริงจัง เครียดง่าย คิดมาก โกรธไม่ค่อยง่าย แต่ถ้าโกรธแล้วโกรธจริง เป็นคนที่หัวเราะอร่อยมาก ที่ว่าอร่อยนี้ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าเป็นยังไง เพราะมีแค่เพื่อนบอกมา 555 รู้แต่ว่าจะหัวเราะออกมาแบบไม่อายเลย อยากหัวเราะก็เอาให้สุดๆ ชอบทำให้คนอื่นยิ้ม หัวเราะ สนุกไปกับเราด้วย จึงมักมีเรื่องเล่ามาเล่าให้เพื่อนฟัง และก็เป็นที่มาของคำว่า “ ขำ เพราะ ไม่ขำ ” นี่ละ 555 เป็นคนกินเก่งมาก (ดูจากหุ่นก็น่าจะรู้) ชอบชวนเพื่อนไปหาของกิน สรรค์หาสถานที่และชวนเพื่อนๆและครอบครัวไปกิน สิ่งที่ชอบทำในเวลาว่างคือ ดูการ์ตูน อาจจะเป็นเพราะว่า ชอบดูมาตั้งแต่เด็กๆ เลยติดมา จนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ยังดูการ์ตูนอยู่เลย คุณแม่เคยพูดว่า จะเป็นคุณครูอยุ่แล้ว ยังดูการ์ตูนอยู่เลย เดี๋ยวตอนไปสอนนักเรียนก็อย่าชวนนักเรียนดูการ์ตูนละกัน 555
แต่เดี๋ยวนี้พอมีกระแสซีรี่ย์เกาหลีเข้ามา ก็เริ่มตามกระแสบ้างละ พอได้ดูก็ติดงอมแงม อิอิ จนโดนคุณพ่อบ่นบ้างในบางครั้ง ชอบอ่านหนังสือเรียนบ้างเล่นบ้าง ปะปนกันไป ชอบเขียนไดอารี่บันทึกเรื่องราวในแต่ละวันที่ทำไป เก็บความทรงจำที่ดี ไว้เป็นอักขระ ชอบวาดรูประบายสีและแต่งรูปสวยๆ และที่ชอบทำมากอีกอย่างหนึ่งก็คือชอบทำอาหาร เวลาอยู่ที่บ้านจะถือว่าเป็นอาชีพหลักเลย เพราะคุณแม่จะไม่ค่อยมีเวลา อาหารในแต่ละมื้อโดยส่วนใหญ่ก็จะมาจากฝีมือปลายจวักของดิฉันนั้นเอง ถ้าถามว่าอร่อยมั้ย ฉันทำเองชิมเองก็ต้องขอบอกว่า สุดยอด 555 ก็ไม่รู้สิ ถ้าอยากจะรู้ก็ต้องลองลิ้มรสด้วยตนเองละคะ ^^
ปัจจุบันนี้ฉันก็เป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 เอกคณิตศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต 5 ปี
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีเพื่อนๆในเอก 37 คน
และก็มีเพื่อนที่สนิทมากๆ อยุ่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมีสมาชิกอยู่ 7 ตน
สงสัยมั้ยละว่าทำไมฉันถึงเรียกว่าแทนสมาชิกทั้ง 7 นี้ว่าตน
ก็เพราะว่าเราทั้ง 7 เปรียบเสมือน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (5555 ) ที่มารวมตัวกันในกลุ่มนี้ได้ ทั้งๆที่นิสัย ลักษณะ หน้าตา ผิวพรรณ บ้านเกิด ก็ต่างกัน เอาเป็นว่าทั้ง 7 ต่างมีข้อที่แตกต่างกันมากมาย
แต่สุดท้ายแล้วเราก็มารวมตัวกัน สนิทสนมกัน เคยไปเที่ยวด้วยกัน นอนด้วยกัน กินด้วยกัน
หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน และร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน กลุ่มพวกเราชอบที่จะพูดคุยกันอยุ่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเเซวเล่น ด่ากัน พูดจิกกัดกัน ตะโกนคุยกัน เรียกชื่อกันด้วยเสียงประมาณว่าห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตรก็ยังได้ยิน และน้อยครั้งมากที่จะชมกัน ฉันคิดว่าพวกเราคงไม่ค่อยชอบความเงียบละมั้ง เลยมักส่งเสียงโหวกแหวกโวยวาย เรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ 555 กลุ่มของเราชอบออกหากิน(อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ) ฉันหมายถึงออกไปกินข้าวในสถานที่ต่างๆ เช่น Shabushi , หมูกระทะ , ส้มตำ , KFC และอื่นๆอีกมากมาย
ในบางครั้งพวกเราก็เคยมีปากเสียงกัน เข้าใจผิดกัน รวมไปถึงทะเลาะกันเลย แต่ทุกครั้งพวกเรากลับมาคืนดีและคุยกันด้วยดีเสมอ ไม่ว่าจะเกิดปัญหากันกับเพื่อนสักกี่ครั้งฉันก็คิดว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นจะทำให้พวกเราเข้าใจกันและรู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ
ก็เพราะว่าเราทั้ง 7 เปรียบเสมือน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (5555 ) ที่มารวมตัวกันในกลุ่มนี้ได้ ทั้งๆที่นิสัย ลักษณะ หน้าตา ผิวพรรณ บ้านเกิด ก็ต่างกัน เอาเป็นว่าทั้ง 7 ต่างมีข้อที่แตกต่างกันมากมาย
แต่สุดท้ายแล้วเราก็มารวมตัวกัน สนิทสนมกัน เคยไปเที่ยวด้วยกัน นอนด้วยกัน กินด้วยกัน
หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน และร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน กลุ่มพวกเราชอบที่จะพูดคุยกันอยุ่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเเซวเล่น ด่ากัน พูดจิกกัดกัน ตะโกนคุยกัน เรียกชื่อกันด้วยเสียงประมาณว่าห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตรก็ยังได้ยิน และน้อยครั้งมากที่จะชมกัน ฉันคิดว่าพวกเราคงไม่ค่อยชอบความเงียบละมั้ง เลยมักส่งเสียงโหวกแหวกโวยวาย เรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ 555 กลุ่มของเราชอบออกหากิน(อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ) ฉันหมายถึงออกไปกินข้าวในสถานที่ต่างๆ เช่น Shabushi , หมูกระทะ , ส้มตำ , KFC และอื่นๆอีกมากมาย
ในบางครั้งพวกเราก็เคยมีปากเสียงกัน เข้าใจผิดกัน รวมไปถึงทะเลาะกันเลย แต่ทุกครั้งพวกเรากลับมาคืนดีและคุยกันด้วยดีเสมอ ไม่ว่าจะเกิดปัญหากันกับเพื่อนสักกี่ครั้งฉันก็คิดว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นจะทำให้พวกเราเข้าใจกันและรู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ
และต่อจากนี้ไปฉันรักเธอไม่น้อยลง นะ 7 wonders of the world ^____^

สุดท้ายก็ขอฝากเนื้อฝากตัว และหัวใจ ไว้กับ blog นี้ด้วยนะคะ
... ไม้เรียว กับ เข็มฉีดยา ....
.... แค่ ....
ปุยนุ่น DEK-D Hero!!!
ตอบลบเหอะๆ หนูน้อยดั่งแหมบนี่เอง ^_^
ลบสวยงามมาก เพื่อนเทค ^^
ตอบลบเพื่อนเทคคค เสร็จรึยัง
ลบอิอิ ขอบใจจร้า ^^
ตอบลบว้าววๆๆ บล็อกนี้ น่ารักมากค่ะ bloggerก็น่ารัก^__^
ตอบลบ555 ขอบใจจร้า
ลบ